ความรู้ >> Tonal Analysis and Source Characterization
KNOWLEDGE
ความรู้

Tonal Analysis and Source Characterization

"Tonal Analysis and Source Characterization เป็นเทคนิคที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาเสียงรบกวนที่มีลักษณะเสียงยากต่อการระบุ เมื่อมีหลายแหล่งกำเนิดเสียงหรือเครื่องจักรต่าง ๆ การใช้เทคนิคนี้ตามมาตรฐานของ BS4142 และ ISO 1996-2 ช่วยในการวิเคราะห์ลักษณะเสียงที่เกิดขึ้นตามแหล่งกำเนิดเสียงและลักษณะของเสียงด้วยซอฟท์แวร์เฉพาะทางด้านเสียง"

Tonal Analysis คือ การวิเคราะห์เสียงโทน ตามมาตรฐานของ BS4142 และ ISO 1996-2

Source Characterization คือ การระบุลักษณะเสียงที่เกิดขึ้นของแหล่งกำเนิดเสียง

Tonal Analysis and Source Characterization เป็นเทคนิคที่ใช้สำหรับการแก้ไขปัญหาเสียงรบกวนที่ลักษณะเสียงยากต่อการระบุ โดยเฉพาะเมื่อมีหลายแหล่งกำเนิดเสียงหรือเครื่องจักรต่าง ๆ ที่สร้างเสียงรบกวน การใช้เทคนิคนี้ช่วยในการวิเคราะห์ลักษณะเสียงที่มีความละเอียดเพื่อสร้างความเข้าใจในแหล่งกำเนิดเสียงและลักษณะของเสียงในระดับทางวิทยาศาสตร์

เมื่อเสียงรบกวนมาจากหลายแหล่งต่าง ๆ หรือเครื่องจักรหลายจุด Tonal Analysis and Source Characterization เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบและระบุลักษณะของเสียงที่ก่อให้เกิดปัญหา การวิเคราะห์และระบุแหล่งกำเนิดเสียงที่มีลักษณะเฉพาะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการพัฒนาแผนการแก้ไขปัญหาเสียงรบกวน

Tonal Analysis and Source Characterization มีความสำคัญในการใช้วิเคราะห์เสียง และระบุลักษณะของเสียงรบกวนที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเหตุการณ์ เช่น มีแหล่งกำเนิดเสียง 5 จุด อยู่ในโรงงานเดียวกันแต่คนละพื้นที่ เสียงที่เกิดขึ้นมีระดับความดันเสียงหรือความถี่เสียงที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ชี้บ่งลักษณะเสียงยากว่าดังมาจากจุดใด การใช้เทคนิค Tonal Analysis and Source Characterization จะช่วยให้การชี้บ่งแหล่งกำเนิดเสียงได้แม่นยำมากขึ้น เพราะหากชี้บ่งแหล่งกำเนิดเสียงผิด ก็จะทำให้การแก้ปัญหาเสียงไม่เกิดผล และสูญเสียงบประมาณรวมถึงเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

การใช้ Tonal Analysis and Source Characterization ในการวิเคราะห์ลักษณะเสียง เพื่อชี้บ่งแหล่งกำเนิดเสียง และนำข้อมูลการวิเคราะห์มาออกแบบ Solution ที่จะใช้ในการแก้ปัญหาเรื่องเสียงดังของเครื่องจักร เราต้องทราบข้อมูลลักษณะของเสียงก่อนว่าเป็นเสียงลักษณะใด เป็นเสียง Tonal หรือไม่ ตามมาตรฐาน ISO 1996-2 ระบุไว้ว่า “ถ้าเป็นเสียง Tonal ที่มีความต่างกันเกิน 6 เดซิเบลเอ ให้เรียกว่าเป็น Tonal Noise หรือ เสียงรำคาญ” เมื่อนำข้อมูลเสียงที่ได้มาแยกความถี่และใช้ Tonal Analysis and Source Characterization จะทำให้ระบุได้ชัดเจนมากขึ้น ว่าแหล่งกำเนิดเสียงที่มีปัญหาเสียงดังรบกวนมาจากจุดไหน และจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร ก็จะทำให้การแก้ปัญหาเสียงดังเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียง และผู้ได้รับผลกระทบทางเสียง