กรณีศึกษาแก้ปัญหาเหตุรำคาญทางเสียงด้วยไซเลนเซอร์
"เมื่อทางสถานประกอบกิจการใช้เครื่องอบผ้าจำนวน 4 เครื่อง พบว่ามีเสียงดังจนกลายเป็นเหตุรำคาญทางเสียงจากปลายปล่องระบายลม ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยใกล้เคียงและเกิดการร้องเรียนตามมา การแก้ปัญหาที่ตรงจุดคือการแยกความถี่เสียงรบกวนในพื้นที่ผู้ได้รับผลกระทบ ทำให้ทราบว่าสามารถใช้ไซเลนเซอร์ชนิดดูดกลืนและสะท้อนเสียง (Hybrid Silencer) แก้ปัญหาเหตุรำคาญทางเสียงนี้ได้ และช่วยให้สถานประกอบกิจการดำเนินงานได้โดยไม่ถูกร้องเรียนอีกต่อไป"
ปัญหาเหตุรำคาญทางเสียงนี้เกิดจากเสียงของลมทิ้งที่ออกจากปล่องระบายลมของเครื่องอบผ้า ก่อให้เกิดการรบกวนทางเสียงแก่ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้กับสถานประกอบกิจการนั้น จากการวัดระดับค่าเสียงที่ริมรั้วของแหล่งกำเนิดเสียงก็พบว่ามีระดับเสียงอยู่ที่ 78.9 เดซิเบลเอ (มาตรฐานระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชม. ไม่เกิน 70 เดซิเบลเอ) และค่าระดับเสียงรบกวนในพื้นที่ของผู้ได้รับผลกระทบอยู่ที่ 5.6 เดซิเบลเอ (เป็นเหตุรำคาญทางเสียง)
การแก้ปัญหาเริ่มจากกระบวนการเก็บข้อมูลเสียงทั้งระดับความดันเสียง ความถี่เสียง Tonal Ability, ISO 1996-2 (dBA) FFT, Haning (16,384 points), 24 bit, 48 kHz Sampling, 6 dBA threshold ความเร็วลมทิ้ง และอุณหภูมิของลมทิ้งที่ออกจากปล่องระบายลมร้อนของเครื่องอบผ้า รวมไปถึงข้อมูลในการซ่อมบำรุงต่างๆ ของผู้ดูแลระบบ จากนั้นทาง NTI ได้นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และออกแบบระบบควบคุมเสียงดัง และพบว่าเสียงรบกวนดังกล่าวเกิดจากความถี่อิทธิพลที่ช่วงความถี่เสียง 24 Hz 250 Hz และ 315 Hz ซึ่งแม้จะเป็นความถี่ต่ำแต่จากการออกแบบพบว่าเสียงหลักมาจากปลายปล่องและสามารถใช้ไซเลนเซอร์แบบไฮบริดในการลดเสียงได้
เมื่อทำการออกแบบและติดตั้งไซเลนเซอร์ลดเสียงที่ปลายปล่องระบายลมของเครื่องอบผ้าทุกเครื่องแล้วเสร็จ ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงอุตสาหกรรมของทาง NTI ได้ทำการวัดระดับเสียงที่ตำแหน่งเดิมก่อนการปรับปรุงซ้ำอีกครั้งพบว่าที่ริมรั้วของแหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียงที่ 66.8 เดซิเบลเอ หรือลดลง 12.1 เดซิเบลเอ (ก่อนปรับปรุง 78.9 เดซิเบลเอ) และในพื้นที่ผู้ได้รับผลกระทบเหลือค่าระดับเสียงรบกวนที่ 0.0 เดซิเบลเอ หรือลดลง 5.6 เดซิเบลเอ (ไม่ได้ยินเสียงลมทิ้งจากปล่องระบายของเครื่องอบผ้าอีกต่อไป)
หลังการลดเสียงโดยการใช้ไซเลนเซอร์สำเร็จ ผู้ได้รับผลกระทบให้ข้อมูลว่ารู้สึกดีใจและขอบคุณทางสถานประกอบกิจการเป็นอย่างมาก ที่เข้าใจและมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเหตุรำคาญทางเสียงดังกล่าวจนสำเร็จด้วยดีและเป็นได้ผลเป็นที่พึงพอใจอย่างสูงสุด สรุปได้ว่าการแก้ปัญหาเหตุรำคาญทางเสียงหรือเสียงรบกวนเกินค่ามาตรฐานไม่ได้เป็นงานที่ยุ่งยากซับซ้อนหรือมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าจะจับต้องได้ หากใช้บริการจากมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงที่มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานจริง