ความรู้ >> แนวทางการเลือกใช้อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน
KNOWLEDGE
ความรู้

แนวทางการเลือกใช้อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน (Vibration Isolator)

"การเลือกใช้อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน มี 6 ขั้นตอนดังนี้: 1. หาค่าภาระน้ำหนักของอุปกรณ์ (Loading Weight) เพื่อทราบน้ำหนักรวมของอุปกรณ์หรือเครื่องจักรนั้น 2. เลือกค่าความถี่แรงขับที่ต่ำสุด (Fd in rpm) โดยระบุค่าความถี่แรงขับที่ต่ำสุดในหน่วย Hz 3. ระบุค่าการยุบตัวสถิตหรือ % การลดการส่งผ่านของความสั่นสะเทือน 4. เลือก Vibration Isolator ตามสเป็คของผู้ผลิตจาก Data Sheet ที่ทางผู้ผลิตให้มา 5. คำนวณค่าประสิทธิภาพในการลดความสั่นสะเทือนที่แท้จริงเพื่อดูว่าสามารถลดได้มากน้อยเพียงใด 6. สรุปผลการออกแบบและเลือกใช้อุปกรณ์เพื่อการแยกความสั่นสะเทือนอย่างเหมาะสม"

การสั่นสะเทือนของเครื่องจักรเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเสียสมดุลย์หรือความผิดปกติของเครื่องจักรเอง ความแข็งแรงของโครงสร้างที่รับน้ำหนักเครื่องจักร การติดตั้งที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการไม่มีอุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น โดยการสั่นสะเทือนเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร หรือในบางครั้งอาจถึงขั้นลดทอนอายุการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆในเครื่องจักรลง ดังนั้นการแก้ปัญหาการสั่นสะเทือนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการเลือกใช้อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน (Vibration Isolator) ให้ถูกต้องและเหมาะสมด้วย

ขั้นตอนในการเลือกใช้อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน (Vibration Isolator) มี 6 ขั้นตอน ดังนี้

1. หาค่าภาระน้ำหนักของอุปกรณ์ (Loading Weight) ต้องทราบน้ำหนักรวมของอุปกรณ์หรือเครื่องจักรนั้น เช่น แอร์คอมเพรสเซอร์มีน้ำหนักรวม 6 ตัน เป็นต้น

2. เลือกค่าความถี่แรงขับที่ต่ำสุด (Fd in rpm หรือรอบ/นาที) หน่วยเป็น Hz ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแอร์คอมเพรสเซอร์มีอุปกรณ์ที่ทำงานในการหมุนรอบ/นาที อยู่ 2 ค่า คือ 800 รอบ/นาที กับ 1600 รอบ/นาที เราต้องเอาค่า 800 รอบ/นาที มาทำการคำนวณ

3. ระบุค่าการยุบตัวสถิต หรือ % การลดการส่งผ่านของความสั่นสะเทือน

4. เลือก Vibration Isolator ตามสเป็คของผู้ผลิต สามารถศึกษาได้จาก Data Sheet ที่ทางผู้ผลิตให้มา

5. คำนวณค่าประสิทธิภาพในการลดความสั่นสะเทือนที่แท้จริง เป็นการคำนวณค่า ว่าสามารถลดจริงได้มากน้อยเพียงใด

6. สรุปผลการออกแบบและเลือกใช้อุปกรณ์

กล่าวโดยสรุป การแก้ปัญหาการสั่นสะเทือนถือเป็นสิ่งที่สำคัญ รวมไปถึงการเลือกใช้อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน (Vibration Isolator) ในการรักษาประสิทธิภาพของเครื่องจักร และยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร ดังนั้นในการเลือกใช้อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน (Vibration Isolator) เราจึงควรทำความเข้าใจก่อนว่า ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน และเลือกใช้แนวทางการแก้ไขการสั่นสะเทือนให้เหมาะสมกับปัญหาหรือเหมาะสมกับเครื่องจักรนั้น ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนานตามงบประมาณที่ไม่สูงเกินความจำเป็น