กรณีศึกษาการแก้ปัญหาเสียงรบกวนจากระบบกรองฝุ่น
โรงงานผลิตเหล็กรูปพรรณแห่งหนึ่งมีระบบกรองฝุ่นที่ทำความสะอาดถุงกรองแบบใช้ลมแรงดันสูงเป่ากระแทกถุง (Pulse-Jet Baghouse) ทุกประมาณหนึ่งนาที โดยส่วนใหญ่แล้วทางโรงงานจะมีการผลิตเกือบ 24 ชั่วโมงต่อวัน ไม่เว้นแม้แต่วันอาทิตย์ในช่วงเวลาที่โรงงานมีคำสั่งซื้อจำนวนมากเข้ามา ปัญหาเสียงรบกวนที่ทางโรงงานถูกชาวบ้านร้องเรียนคือปัญหาเสียงจากระบบถุงกรองฝุ่น ซึ่งเป็นเสียงกระแทกของลมแรงดันสูงที่ปล่อยออกมาตามเวลาที่ตั้งไว้เพื่อกระแทกให้ฝุ่นที่เกาะผิวถุงกรองหลุดร่วงลงมา เสียงลักษณะนี้ถูกจัดให้เป็นเสียงกระแทกตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม และต้องบวกเพิ่มอีก 5 dBA กอรปกับเสียงที่เกิดขึ้นยามวิกาล (22:00-06:00 น.) จึงต้องบวกเพิ่มอีก 3 dBA ทำให้ค่าระดับการรบกวนที่วัดได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ทางโรงงานมีแนวคิดจะย้ายตำแหน่งระบบกรองฝุ่น เนื่องจากจุดที่ตั้งของระบบมีระยะห่างจากบ้านผู้ได้รับผลกระทบเพียง 15 เมตร แต่ภายหลังการหารือกันภายในของผู้เกี่ยวข้องในโรงงานจึงพบว่าไม่สามารถทำการย้ายระบบได้ จึงต้องหาวิธีการขจัดเสียงรบกวนที่ตำแหน่งเดิม โรงงานได้มีความพยายามในการลดเสียงกระแทกของลมด้วยการลดแรงดัน แต่มีปัญหาตามมาคือถุงกรองตันเร็วขึ้นกว่าเดิม จึงได้ทำการติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงในอุตสาหกรรมให้เข้าไปหาทางควบคุมเสียง หลังจากการเข้าดูหน้างานและศึกษาสภาพปัญหา
วิธีแก้คือการติดตั้งระบบกันเสียงเข้าไปที่ผิวโลหะของชุดกรองฝุ่น (damping technique) เพื่อลดการกระพือและความกังวานของโลหะจากพลังงานเสียงของลมที่กระแทกภายใน โดยความสำเร็จในการแก้ปัญหาครั้งนี้ มีปัจจัยที่สำคัญคือการเลือกวัสดุที่มีค่า TL (Transmission Loss) สูงพอที่จะลดพลังงานเสียง แต่ไม่เพิ่มน้ำหนักมากเกินไปจนเป็นภาระกับโครงสร้างของระบบ